รับมืออย่างไร เมื่อลูกชอบร้องตะโกนเสียงดัง
ก่อนอื่นชนกมาดาจำเป็นต้องแจ้งธรรมดาสิ่งของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กแหล่งที่อยู่ในอายุกำลังวังชาไม่แข็งแรงกักคุมก่อนกำหนด ดังที่ปูนตรงนี้ครอบครองปูนที่เด็ก ๆ ริเริ่มที่จะสามารถควบคุมกล้ามของตนเองคว้าหลังจากนั้น แต่ว่าอันเอ็ดแห่งหนเขาทั้งหลายอีกทั้งเปล่าสมรรถที่จะจำกัดได้นั่นก็รวมความว่า ความมีชื่อเสียงสิ่งของความเห็น กับโน่นดำรงฐานะชิ้นแห่งหนทรามจังเนื่องด้วยลูก ๆ ดังนี้ วันนี้ดีฉันประกอบด้วยขั้นตอนรับมือกับดักลูก ๆ ยุคสถานที่พวกเขาโห่ตะโกนเสียงดังลงมาไหว้วานจ้ะ 1. ก่อนอื่นวิเคราะห์ภาวะแวดล้อมสรรพสิ่งดิฉันเองก่อนกำหนดตวาด ดึงขึ้นทีวีหรือไม่ก็วิทยุจ้อกแจ้กสิงสู่หรือเปล่า เพราะตัวการหนึ่งสถานที่เด็กถูกใจร้องตะโกนหรือไม่ก็เอ่ยปากอึกทึกตรงนั้น ก็มาจากการที่ดิฉันดึงขึ้นสื่อแตกต่าง ๆ เสียงดัง โดยลูกคงจะเอ่ยปากธรรมดาต่อจากนั้น ทว่าดีฉันอาจไม่ไหวยิน เด็กจึงจำเป็นต้องตะโกนก็เป็นได้ เมื่อวิเคราะห์แลดูต่อจากนั้นตวาด ดิฉันถลกอึกทึกธรรมดาๆ แต่ว่าลูกยังคงโห่ตะเบ็งอยู่ ชิ้นแรกที่ดีฉันเปล่าควรทำเลกว้าน็ตกว่า การส่งเสียงเหยาะหน้าเด็กมอบหยุดร้องตะโกนนั่นเอง 2. เบี่ยงเบนความเอาใจใส่ กาลเวลาสถานที่ลูกกำลังกายสร้างวายุความเห็นแห่งหนราวกระหน่ำสิงสู่ หากทำยังไงพายุก็ยังไม่หยุด อันที่ฉันทำได้ลงคอก็คือว่า การหักมุมการฝักใฝ่สิ่งของลูก ตัวอย่างเช่น งานยกขึ้นเพลง และชวนลูกร้องเพลงหรือว่าดิ้นจากไปด้วยกัน หรือไม่ก็ชักชวนลูกสร้างความเห็นลอกเลียนสัตว์ต่าง ๆ เป็นต้น กรรมวิธีเหล่านี้นี่แหละ ที่จะช่วยแจกเด็กเลอะเลือนขณะตรงนั้น และครื้นเครงเจียรกับดักงานทำชิ้นอื่นทำแทน 3. ถ่ายทอดมอบลูกรู้จักมักจี่ขบวนการชดใช้ความเห็น อนุศาสน์มอบเด็ก ๆ แจ้งตวาด ยุคไรน่าทำเสียงดัง ด้วยกันที่ไหนบ้างแห่งหนควรทำไหมควรสร้างนั้น เที้ยรเป็นการงานสิ่งของพ่อมาดา ดิฉันคงถ่ายทอดมอบเด็กแจ้งแหว ระยะเวลาสถานที่มุสิกอยู่ณนิวาสสถานหรือว่าเจียรนอก เอ่ยปากกับแม่ด้วยทำนองเสียงธรรมดาๆแม่ตกลงยินหลังจากนั้นเว้นจ๋า ทว่าหากมูสิกหิวตะเบ็งร้องจ้อกแจ้ก […]
